พร้อมเปลี่ยนวิกฤตสภาพอากาศให้เป็นโอกาสทางธุรกิจไหม? ถ้าบอกว่าคุณวางรากฐาน ESG ให้กับองค์กรได้ภายใน 30 วัน คุณจะเริ่มวันนี้เลยไหม! แผนนี้ออกแบบมาให้ทำได้จริง วัดผลได้ และคุ้มค่า ทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและต้นทุนของคุณ

สัปดาห์ที่ 1: รู้จักคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร
• เก็บข้อมูลการใช้ไฟฟ้า น้ำ เชื้อเพลิง การเดินทาง และขนส่งสินค้า เพื่อสร้าง baseline ตาม GHG Protocol (Scope 1–3)
• สำรวจจุดรั่วไหลพลังงาน เช่น เครื่องใช้สแตนบาย แอร์ไม่ได้บำรุงรักษา ระบบลมรั่ว และอุปกรณ์ล้าสมัย

สัปดาห์ที่ 2: ตั้งเป้าและนโยบายที่ชัดเจน
• กำหนดเป้าหมาย Net Zero แบบเป็นขั้น (ระยะสั้น/กลาง/ยาว) และใช้ Science-Based Targets ถ้าเป็นไปได้
• สร้างนโยบายจัดซื้อสีเขียว เลือกซัพพลายเออร์ที่มีมาตรฐานสิ่งแวดล้อม และกำหนดแนวทางจัดการขยะอาหาร/recycle ที่วัดผลได้

สัปดาห์ที่ 3: ลงมือกับโครงการเร็ว ได้ผลไว
• เปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED ตั้งค่าแอร์ 26°C และปิดสวิตช์สแตนบายทุกพื้นที่
• ติดตั้งมาตรวัดพลังงาน/น้ำแบบย่อย (sub-meter) หรือใช้ IoT เพื่อติดตามแบบเรียลไทม์
• ตั้งจุดคัดแยกขยะครบวงจร พร้อมคู่มือใช้งานที่เข้าใจง่าย และข้อตกลงกับผู้รับรีไซเคิลที่เชื่อถือได้

สัปดาห์ที่ 4: สื่อสาร สร้างวัฒนธรรม และปรับปรุงต่อเนื่อง
• สื่อสารความคืบหน้าอย่างโปร่งใสกับพนักงาน ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผ่านรายงานความยั่งยืนหรือแดชบอร์ดภายใน
• ใช้ KPI ที่วัดได้ เช่น kWh/หน่วยผลิต ตัน CO2e/รายได้ อัตราการรีไซเคิล และผลประหยัดต้นทุน
• วางแผนอัปเกรดระยะถัดไป เช่น โซลาร์รูฟท็อป ซื้อพลังงานสะอาด (I-REC/RE100) หรือใช้เครดิตคาร์บอนคุณภาพดีเฉพาะส่วนที่ลดเองไม่ได้

เคล็ดลับสำหรับ SME
• เริ่มเล็กแต่ต่อเนื่อง ใช้เครื่องมือฟรี/ราคาประหยัด และมองหาสิทธิประโยชน์ทางภาษีหรือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับโครงการประหยัดพลังงาน

เมื่อมีข้อมูล เป้าหมาย และการสื่อสารที่ดี ความยั่งยืนจะกลายเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้า ถึงเวลาวางก้าวแรกสู่ ESG และ Net Zero แล้ววันนี้